บทที่ 1

การสื่อสารข้อมูล ( Data Communication )

                    การสื่อสารข้อมูล หมายถึง การส่งข้อมูลข่าวสารจากจุดหนึ่งซึ่งเรียกว่าจุดเริ่มต้นหรือจุดส่งสัญญาณไปยังจุดปลายทางหรือ
  จุดรับข่าวสาร โดยอาศัยตัวกลางหรือพาหะนำสัญญาณ

 

 

    พื้นฐานการสื่อสารข้อมูล

          การสื่อสารข้อมูลมีส่วนประกอบ 3 ส่วนคือ

              1) ตัวส่งสัญญาณหรือแหล่งกำเนิด
              2) ตัวกลางหรือพาหะนำสัญญาณ
              3) ตัวรับหรือผู้รับ

    รูปแบบทิศทางของการส่งสัญญาณสื่อสารมี 3 รูปแบบ

         1. การส่งสัญญาณแบบทางเดี่ยว (Simplex)
            หมายถึงผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลข่าวสารผ่านตัวกลางไปให้ผู้รับได้ฝ่ายเดียวซึ่งผู้รับข่าวสารไม่สามารถโต้ตอบกลับไปได้เช่นวิทยุกระจายเสียง          2. การส่งสัญญาณแบบกึ่งทางคู่ (Half – Duplex)
            หมายถึงผู้สามารถส่งข่าวสารผ่านตัวกลางไปให้ผู้รับได้และผู้รับก็สามารถโต้ตอบกลับไปให้ผู้ส่งได้แต่ต้องผลัดกันรับ-ส่ง เช่น วิทยุมือถือ
         3. การส่งสัญญาณแบบทางคู่ (Full – Duplex)
            หมายถึง การส่งสัญญาณที่ผู้รับและผู้ส่งสามารถโต้ตอบกันได้โดยทันทีทันใด เช่น การคุยโทรศัพท์ , สนทนา

    สัญญาณ (signal)

          ก่อนจะอธิบายถึงช่องสัญญาณเรามาทำความเข้าใจสัญญาณที่ใช้เป็นพาหนะสำหรับส่งข้อมูลสัญญาณที่ใช้แทนข้อมูลและนำพาข้อมูลผ่าน
   สายส่ง มี 2 รูปแบบ คือ
                         1. สัญญาณดิจิตอล (Digital)
                         2. สัญญาณอะนาล็อค (Analog)

    1. สัญญาณดิจิตอล (Digital)
          สัญญาณดิจิตอล จะอยู่ในรูปแบบของพัลส์ไฟฟ้าสี่เหลี่ยมบนช่องสัญญาณ ข้อมูลที่ถูกแปลงเป็นสัญญาณดิจิตอล จะถูกนำเข้าช่องสัญญาณ
  ในอนุกรมของบิท 0 หรือ 1 ซึ่งแสดงด้วยค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าสูง หรือต่ำบนช่องสัญญาณ เช่นสัญญาณดิจิตอลบนช่องสัญญาณหนึ่งในช่วงเวลา
   หนึ่งบิท 1 แสดงโดยค่าความต่างศักย์ไฟฟ้า 5 volts ขณะที่ บิท 0 แทนด้วย 0 volts



    2. สัญญาณอะนาล็อค (Analog)

              สัญญาณอะนาล็อคใช้ค่าต่อเนื่องของความต่างศักย์ไฟฟ้าบนช่องสัญญาณแทนข้อมูลเราสามารถใช้สัญญาณอะนาล็อคส่งข้อมูลด้วยบิท0หรือ
   1 หรือส่งสัญญาณหลากหลายเช่นสัญญาณเสียงและภาพแสงเสียงคลื่นวิทยุและสัญญาณอะนาล็อคอื่นสามารถเดินผ่านอากาศในรูปของคลื่นความถี่
   ได้เหมือนทางผ่านสาย ลักษณะของคลื่นจะกำหนดโดยขนาดหรือแอมปลิจูด และความถี่



          แอมปลิจูด คือ ความสูงของคลื่น แอมปลิจูดของคลื่น ขึ้นอยู่กับช่วงของความต่างศักย์ไฟฟ้าบนสัญญาณ
          ความถี่ หมายถึง จำนวนครั้งที่เกิดคลื่นซ้ำ ในรูปแบบเดิมในช่วงเวลาหนึ่ง คลื่นจะถูกแกว่งตามความถี่ที่กำหนด

    โหมดของการส่งผ่านข้อมูล (Tranmission Mode)
           สามารถแบ่งวิธีการส่งผ่านข้อมูลได้ 2 รูปแบบคือ
          1. การส่งข้อมูลแบบขนาน ( Parallel Transmistion)
               ในการส่งข้อมูลแบบขนานทุกบิตที่เข้ารหัสแทนข้อมูลจะถูกส่งผ่านไปตามสายขนานกันและพร้อมกันจำนวนสายส่งจะสองเท่ากับ
   จำนวนบิทที่นำมาเข้ารหัส เช่น 8 บิท ต้องมีสายส่ง 8 เส้น ถ้าใช้รหัส ASCII 1 ตัวอักษรถูกแทนด้วย 8 บิต



          2. การส่งผ่านข้อมูลแบบเรียงลำดับ (Serial Transmission)
                การส่งข้อมูลแบบนี้ ทุกบิตที่ถูกเข้ารหัสจะถูกส่งออกไปเรียงกันตามลำดับก่อนหลัง ตามกันไปโดยใช้สายเส้นเดียวการส่งผ่านข้อมูล
  แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

                    1. การชิงโคนัส ( Synchronization)
                    การส่งแบบชิงโคนัสจะส่งข้อมูลไปพร้อมกันโดยไม่มีช่องว่างแต่ต้องมีสัญญาณนำเพื่อให้ผู้รับทราบว่าจะเริ่มทำการส่งข้อมูล

                   2. การส่งข้อมูลแบบอะชิงโคนัส ( Asynchronous)
                    การส่งข้อมูลแบบนี้จะต้องมีสัญญาณ Start ตามด้วยข้อมูลและ Stop ปิดท้ายข้อมูล


          รหัสข้อมูล (DataCode) จากที่ผ่านมาเราได้เรียนรู้การส่งข้อมูลดิจิตอลที่ใช้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ไปบนสายสัญญาณด้วยเทคนิคการเข้า
   สัญญาณแบบต่าง ๆ ข้อมูลจะต้องถูกแปลงเป็นชุดของตัวเลขบิท 0 และ 1 หน่วยของข้อมูลเช่น อักขระ (character ) จะถูกแทนด้วยชุดของบิท
   0 และ 1 จำนวนหนึ่ง เราเรียกชุดของบิท 0 และ 1 นี้ว่า รหัส

           รหัสที่นิยมใช้กันในระบบสื่อสารข้อมูลมี 2 แบบ คือ
                
                    - รหัส ASCII
                    - รหัส EBCDIC