บทที่ 3

อุปกรณ์ในระบบเครือข่าย

 

     แผงวงจรเครือข่าย (LAN CARD)
           คือแผงวงจรเครือข่ายที่เสียบไว้กับตัวเครื่องและเชื่อมต่อด้วยสายเพื่อต่อเป็นเครือข่ายโดยแผงวงจรเครือข่ายนี้จะมีช่องไว้เสียบหัวชนิด   RJ – 45 ,   BNC , AUI

     แผงวงจรเครือข่าย (LAN Card) หรือ Network Interface Card (NIC) มีหน้าที่ดังนี้

          •  Convert สัญญาณจาก Serial เป็น Parallel และ Parallel เป็น Serial

          •  เป็นตัว Buffer ของข้อมูลที่จะส่งและรับ

          •  เป็นผู้จัดสร้าง Packet หรือ Frame ขึ้น

          •  ทำหน้าที่เข้ารหัสและถอดรหัส

          •  ตรวจสอบค่า Address ที่เข้ามาจากผู้ส่ง

          •  ตรวจสอบการชนกันของข้อมูล

     Repeater เป็นอุปกรณ์สำหรับขยายสัญญาณข้อมูลเพื่อให้ข้อมูลที่ส่งไปยังปลายทางความเที่ยงตรง


     
      HUB
  เป็นอุปกรณ์ศูนย์กลางของช่องทางรับ ส่งสัญญาณข้อมูล โดยมีหน้าที่เป็น Repeater ในตัวด้วยแบะเป็นตัวขยายช่องสัญญาณ


 

     Bridge (บริด) ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระบบเครือข่ายและทำขยายสัญญาณในตัว

 

 

     Router คืออุปกรณ์ที่เชื่อมระหว่างเครือข่ายโดยลักษณะพิเศษของ Router สามารถค้นหาเส้นทางการส่งข้อมูลเองได้

 

 

     Switch เป็นการรวมเอาคุณสมบัติของ Hub และ Bridge เข้าไว้ด้วยกันซึ่งนอกจากจะมีความสามารถเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายแล้วยัง เป็นตัวขยายชิ่ง
  สัญญาณในตัวและปริทธิภาพการส่งข้อมูลยังมีความเร็วในการส่งคงที่ถึงแม้ว่าจะมีการจราจรหนาแน่น ต่างกับ Hub เมื่อมีการจราจรแน่นหนาความเร็ว
   ในการส่งจะลดลงตามจำนวนเครื่องที่มีการใช้งานในเครือข่าย

 

 

     สายส่งในระบบเครือข่ายข้อมูลที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่

          •  สายตีเกลียวคู่
          •  สายโคแอกเชียล
          •  เคเบิลใยแก้วนำแสง
         
•  ระบบไร้สายผ่านคลื่นไมโครเวฟ
          
•  ระบบไร้สายผ่านสัญญาณดาวเทียม

     สายตีเกลียวคู่ (Twist pair)
          สายตีเกลียวคู่ เป็นสายสัญญาณที่นิยมใช้กันมากทั้งในระบบ WAN และ LAN สายคู่ตี
เกลียวประกอบด้วยสายทองแดงคู่พันกันเป็นเกลียวทำให้  
   เพิ่มความสามารถในการเป็นพาหนะของสัญญาณไฟฟ้า

          ข้อดี ของสายคู่ตีเกลียว คือ ราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย และสะดวก
          
ข้อเสีย ของสายคู่ตีเกลียว คือ สามารถถูกรบกวนจากการเหนี่ยวนำทางไฟฟ้าจากแหล่งกำลังไฟฟ้าต่าง ๆ มากกว่าสายส่งแบบอื่น

     สายโคแอกเชียล
          สายโคแอกเชียล หรือเรียกสั้น ๆ ว่า สายโคแอก ประกอบด้วยแกนตัวนำตรงกลางเป็นลวดทองแดงล้อมรอบด้วยฉนวน ซึ่งอาจจะเป็นอากาศหรือ   เทฟลอนรอบฉนวนจะหุ้มด้วยลวดทองแดงสานกัน หรือฟอยล์โลหะรอบนอกสุดหุ้มด้วยปลอก PVC
          การมีตัวนำภายนอกและฉนวนหุ้มสายเคเบิล ช่วยป้องกันสัญญาณไฟฟ้าจากภายนอกและลดการแผ่รังสีของสัญญาณภายในทำให้สามารถส่ง
  ข้อมูลผ่านสายโคแอกเชียลด้วยความเร็วสูง และระหว่างทางไกล

     เคเบิลใยแก้วนำแสง
          
เคเบิลใยแก้วนำแสงประกอบด้วยใยแก้วรวมด้วยฉนวนหรือเคเบิลใยแก้วนำแสงมีลักษณะใส และขนาดเล็กเท่าเส้นผม สัญญาณที่ส่งผ่าน
  เคเบิลใยแก้วนำแสงจะเป็นสัญญาณแสงไม่ใช่สัญญาณไฟฟ้าแหล่งกำเนิดแสงมีหลายชนิดด้วยกัน เช่น เลเซอร์ ไดโอดเรืองแสง เป็นต้นแหล่งกำเนิด   แหล่งกำเนิดแสงทำหน้าที่ผลิตพลัสซ์สัญญาณแสงซึ่งสามารถส่งผ่านเคเบิลแสง และถุกแปลงกลับเป็นสัญญาณดิจิตอลที่อุปกรณ์รับปลายทาง

          ข้อดี ของเคเบิลใยแก้ว คือ ความสูญเสียของการลดระดับสัญญาณน้อยกว่า สายทองแดงทั่ว ๆ ไป นั่นคือสามารถส่งสัญญาณแสงได้ระยะทาง
   ไกลกว่า ง่ายในการจัดการและติดตั้ง เนื่องจำขนาดที่เล็กและเบากว่าสายทองแดงทั่วไป
          
ข้อเสีย ของเคเบิลใยแก้ว คือ ราคาค่อนข้างสูง ทั้งสำหรับตัวเคเบิลใยแก้วเอง และอุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่าย

     ไมโครเวฟ
     
     อาจกล่าวได้ว่าตัวกลางที่กล่าวมาเบื้องต้น เป็นสื่อที่มีขอบเขตและรูปร่าง แต่การส่งสัญญาณไมโครเวฟไม่มีขอบเขต เป็นการส่งข้อมูลผ่านที่
  ว่างเปล่า สัญญาณไมโครเวฟจะถูกส่งจากสายอากาศ กระจายผ่านอากาศ ไมโครเวฟเป็นคลื่นวิทยุที่มีความถี่ระหว่าง 1 กิกะเฮิรทซ์และ 10 กิกะเฮิรทซ์
           
สัญญาณไมโครเวฟจะถูกส่งผ่านทอนำคลื่นไปยังอากาศ ท่อนำคลื่นเป็นตัวนำพิเศษมีลักษณะเป็นท่อกลางสัญญาณไมโครเวฟจะแพร่กระจายผ่าน
  ท่อนำคลื่นด้วยความสูญเสียกำลังต่ำมาก

          ข้อดี ของระบบสัญญาณไมโครเวฟ คือ ใช้แบนวิธที่รองรับข้อมูลสูงกว่าสายและลดงานการเดินสายสัญญาณ
           ข้อเสีย ของระบบไมโครเวฟ คือ คุณภาพสัญญาณอาจถูกกระทบโดย สภาพภาวะอากาศและไม่สามารถส่งหรือเส้นทางการแพร่คลื่น   ออกนอก   ขอบเขตแนวสายตา

     สัญญาณดาวเทียม (Satellite)
          
การสื่อสารดาวเทียม ถือว่าเป็นวงจรทวนสัญญาณไมโครเวฟที่มีช่องทวนสัญญาณที่ยาวมาก เนื่องจากดาวเทียมจะอยู่สูงจากระดับพื้นจาก
  หลายร้อย กิโลเมตรจนถึงวงโคจร 23.500 กิโลเมตร ดาวเทียมจะเข้าสู้วงจรด้วยการใช้จรวดส่งดาวเทียม ดังนั้น ดาวเทียมจะถูกออกแบบให้มีขนาด
  เบาและเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดาวเทียมสื่อสารที่ทั้งเคลื่อนที่และแบบอยู่กับที่

           ข้อเสีย ของระบบดาวเทียม คล้ายกับไมโครเวฟ คือ อาจถูกกระทบโดยสภาพอากาศ เนื่องจากระยะทางของดาวเทียมไกลจากพื้นโลกมาก